เพราะสามารถทำตามคำพูดที่ให้ไว้เสมอ ดาวูด มูฮัมหมัด ได้สร้างชื่อเสียงขึ้นมาถึงระดับชาติ ซึ่งยังผลให้ธุรกิจการตกแต่งเสื้อผ้าแบบหลายกระบวนการของเขา มีงานพิมพ์ของเสื้อผ้ามากกว่า 100 ยิี่ห้อต่อเดือน
ด้วยการพูดภาษาดียวกับลูกค้าและการทำความเข้าใจความต้องการ ดาวูด มูฮัมหมัด คว้านเอาตลาดเฉพาะที่กำไรสูง และสร้างชื่อเสียงเป็นที่หนึ่งในแหล่งตกแต่งเสื้อผ้าแนวสตรีท
วิธีหนึ่งที่คุณจะรู้ได้ว่าคุณเริ่ม “เข้าเค้า” แล้วคือเมื่อลูกค้าที่มีศักยภาพลงทุนบินข้ามประเทศเพื่อมาปรึกษากับคุณว่า บริษัทของคุณสามารถช่วยเขาสร้างและผลิตเสื้อผ้าดีไซน์เนอร์ได้อย่างไร แทนที่เขาจะหาโรงพิมพ์ใกล้ เพราะว่าดาวูด มูฮัมหมัด เริ่มต้นเข้ามาในธุรกิจตกแต่งเสื้อผ้าจากการสร้างเสื้อผ้าสตรีทแวร์ของตัวเอง เขาจึงรู้ดีว่าลูกค้าต้องการอะไรมากกว่าตัวลูกค้าเองเสียอีก


เพิ่มเติมจากความรู้ลึก และแพชชั่นในการสร้างสรรค์และความแหวกแนว เขากลายมาเป็นผู้เชี่ยวชายญด้านสเปเชี่ยลเอฟเฟ็ค มัลติมีเดีย และ ไปไกลจนถึงขึ้นประดิษฐ์เทคนิคใหม่ๆขึ้นมาเอง เพื่อเขาจะได้ทำให้กราฟฟิคของแบรนด์ใดๆ โดดเด่นออกมาได้
จากโรงรถในบ้านของคุณย่าของเขา ดาวูดและภรรยา, เคสนี่, สร้างบิ๊กปริ้นติ้ง ในเมืองซาน ลีอานโดร แคลิฟอร์เนีย จนมามีขนาด 1,200 ตารางเมตร, เครื่องออโต้ 4 ตัว, เครื่องแมงมุม 1 ตัว และ เครื่องปัก 32 หัว
“ทุก 3 ปี ทันทีที่สัญญาเช่าเราหมดลง เราพบว่าตัวเราย้ายไปยังพื้นที่ที่ใหญ่กว่าเป็นสองเท่าของพื้นที่ก่อนหน้า” เคสนี่โน๊ตไว้
เหมือนกับธุรกิจที่เติบโตทั้งหลาย ทางเดินสู่ความสำเร็จไม่ได้เป็นเส้นตรง ดาวูด ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับสร้างงานศิลปะตั่้งแต่มัธยมต้น เริ่มต้นสร้างงานออกแบบเสื้อผ้ายี่ห้อของเขาเองชื่อ “บิ๊กพิมพิน’ เทอฟ์โคล์ทส” “นั่นเป็นแบรนด์ที่ทำให้ให้ผมรุ้จักเสื้อยืด และผมก็หลงรักมันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” เขากล่าวไว้
“ผมซึ่งเครื่องแมงมุม และเริ่มพิมพ์สินค้าของผม หลังจากนั้นเมื่อผมซื้อออโต้ คนขายเครื่องผมเตือนไว้ก่อนแล้วว่า ไม่นานผมต้องไปพิม์ให้คนอื่นด้วยแน่ๆ และผมก็บอกเขาไปว่า ‘นาย, นั่นไม่ใช่ตัวฉันแน่ๆ และผมก็ปฏิญานไว้เลยว่าจะไม่ทำงานให้คนอื่น” เขายิ้ม

แต่โชคชะตาก็มีแผนอื่นให้ดาวูด เพื่อนในชมรมเดียวกันมาขอให้เขาพิมพ์เสื้อ 900 ตัว ที่ได้รับการบริจาคจาก เดอะแก็ป ขั้นแรกเพื่อนเขามาถามก่อนว่าพิมพ์ได้ไหม แล้วก็ถามว่า “ราคาเท่าไหร่ล่ะ” โดยที่ไม่รู้ว่าจะคิดราคายังไง เขาก็เลยเสนอไปว่า 1 ดอลล่าร์ เมื่อเสร็จงาน เขาก็พบข้อดีหลายข้อในการพิมพ์งานให้คนอื่น “เมื่อคุณทำแบรนด์ของตัวเอง คุณต้องออกแบบ, พิมพ์, ทำตลาด และขายมัน” “แต่หลังจากพิมพ์ 900 นั่น, ผมก็ตระหนักว่าผมไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากพิมพ์มัน และเขาก็จ่ายมาเต็ม”
หลังจากนั้นเขาก็พบ เคสนี่ แม่ของเคสนี่เป็นผู้อำนวยการกิจกรรมของโรงเรียนแถวนั้น และต้องการเสื้อยืด เขาว่าหลายสิ่งก็เริ่มจากตรงนั้น โรงเรียน, ธุรกิจขนาดเล็ก, ชมรมมอเตอร์ไซค์ และ ออเดอร์จากนักออกแบบเสื้อผ้า ก็เริ่มจะหลั่งไหลเข้ามา
ในบรรดาลูกค้ารายแรกๆ ก็มีผู้จัดจำหน่ายสินค้าโปรโมชั่น แต่ทั้งคู่ก็ตระหนักว่าส่วนธุรกิจนั้นไม่เหมาะกับจุดแข็งของพวกเขาเท่าไหร่
“ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมสินค้าโปรโมชั่นจะเจ๋ง แต่ว่าเรามาจากการพิมพ์เสื้อผ้ายี่ห้อของเราเอง” เคสนี่กล่าว “เราได้ลงทุนเวลาและทรัพยากรในการเพิ่มความสามารถด้านการออกบบ และ พัฒนาเทคนิคใหม่ๆ ยังรวมถึงการวิจัยและพัฒนาหมึกพิเศษอื่นๆ แต่เราก็ไม่ได้รับเงินที่คุ้มกับตลาดสินค้าโฆษณาเท่าไหร่”
“พื้นที่ที่เราแข็งแรง -ออกแบบและสเปเชี่ยลเอ็ฟเฟค- ตลาดสินค้าโฆษณาไม่ได้ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนต้นปี 2000 เราก็เลยมุ่งไปทางการพิมพ์เสื้อผ้ายี่ห้อแทน ตลาดนี้สนใจการออกแบบแฟชั่นและเทรนด์ ซึ่งตรงกับจุดแข็งเรามากกว่า ตลาดที่ถูก, เร็ว และ สีเดียว” เธอกล่าวสรุป
อีกทางหนึ่งที่บิ๊กปริ้นติ้งทำตัวเองให้แตกต่าง คือความง่ายในการที่ลูกค้าจะทำธุรกิจกับพวกเขาด้วยการสร้างแพ็คเกจพิเศษ ด้วยความที่เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าดาวูดรู้ว่า มันสับสนเพียงไรในการที่คนเข้ามาใหม่ๆจะต้องทำความเข้าใจเรื่ององค์ประกอบและการตัดสินใจต่างๆที่ต้องทำเมื่ออยากจะทำเสื้อผ้ายี่ห้อของตัวเอง สไตล์, ไซส์, สีเสื้อ, สีหมึก, ขนาด และ ตำแหน่งของกราฟฟิค, เอฟเฟ็ค และอื่นอีกมาก ดูมากมายและถาโถมเข้าไปยังลูกค้าทั่วไป
“ผมต้องการให้ทุกคนทำได้อย่างที่ผมเคยทำ” ดาวูดกล่าว “ดังนั้นผมก็เลยทำให้แพ็คเกจขึ้นมาสำหรับเสื้อผ้ายี่ห้อที่รวมทุกอย่างไว้ทั้งหมด”
สุดท้ายแล้วสิ่งที่บิ๊กปริ้นติ้งนำเสนอคือ ราคาเดียว 499 เหรียญ ที่ลูกค้าจะได้ ลายพิมพ์ 3 สี ป้ายคอ พับแพ็ค บนเสื้อ 50 ตัว
“นี่ทำให้แรงกดดันเรื่องราคาหายไปเยอะและดีไซเนอร์ก็เข้าใจง่ายขึ้น การสกรีนดั้งเดิมจะพูดว่า ‘งานนี้ใช้จำนวนสี่เท่านี้ ค่าบล็อกเท่านี้แล้วก็อาจจะมีค่าแฟลช หรืออื่นๆ’ ตัวแปรต่างๆทำให้ทุกอย่างดูซับซ้อน เราก็แค่ทำให้มันง่ายขึ้น” เขากล่าว
“มันเวิร์คดีทีเดียวล่ะ” เขาเสริม “เราได้รับการติดต่อจากแบรนด์เล็กๆที่เพิ่งเกิด จำนวนมากมาย มาจากทั่วประเทศ”
เวลาและความพยายามที่ใช้ในการสร้างเครือข่ายก็ตอบแทนดาวูดและเคสนี่อย่างดี อันที่จริงต้องขอบคุณสายสัมพันธ์ที่พวกเขาได้จากงาน เทรดเอ็กซ์ งานสัมมนาระดับชาติของอุตสาหกรรมนี้ บิ๊กปริ้นติ้ง สามารถรับงานใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยได้จากบริษัทในฟอร์จูน 500.
งานเทรดเอ็กซ์ เข้ามาในชีวิตเมื่อดาวูด เห็นซัพพลายเออร์ของเขารายหนึ่งในโซเชียลมีเดียมีตั๋วฟรีสองใบเหลือ ซึ่งมีมูลค่า 1,500 เหรียญ เค้ารีบส่งแมสเสจไปหาคนนั้นแล้วก็คว้าตั๋วมา
ที่เทรดเอ็กซ์ ซึ่งจัดที่ โรงแรมซากูอาโร่ สก็อตส์เดล ในอริโซน่า เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เคสนี่พบ เท็ด พิดค็อค ประธานของ ชิลลี่แบร์ ธุรกิจพิมพ์สกรีนและปักใน นีดแฮม แมสซาชูเซ็ต พิดค็๋อคยังเป็นกรรมการในปริ้นติ้งอัลลายแอนซ์ (เดิมชื่อ SGIA) พวกเขาเริ่มสนิทกัน และนั่นก็ทำให้ พิดค็อคโทรหาเธอในเดือนมิถุนายน
เขากล่าวว่า “ผมรู้ว่ามีงานออเดอร์นึงที่กำลังจะออกมา และน่าจะเป็นโอกาสใหญ่สำหรับคุณ ผมจะขอแนะนำคุณให้กับเพื่อนร่วมงานผม อดัม โคเฮน เขาเป็นเจ้าของ แอตลาส ปักและสกรีน ในฟลอริด้า” เค้าก็ได้แนะนำไปจริงๆ และอดัมก็โทรกลับมาหาเรา และเชื่อมเราเข้ากับตัวแทนของบริษัทใน ฟอร์จูน 500 บริษัทนั้น” ดาวูดย้อนเรื่องราว
บริษัทฟอร์จูน 500 และเอเจนท์สินค้าของบริษัทนั้น, นอกจากต้องการให้บิ๊กปริ้นติ้งเซ็นต์เอกสารไม่เปิดเผยรายละเอียดก่อนรับออเดอร์แล้ว, ต้องการเสื้อ 300,000 ตัว จ่ายแจกแก่พนักงานเพื่อซัพพอร์ต แบล็คไลฟ์แมทเทอร์ และพวกเขาต้องการธุรกิจของคนผิวดำเพือพิมพ์เสื้อนั้น
เป็นจุดนี้เองที่ความพยายามสร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่องของครอบครัวมูฮัมหมัด ไม่ว่าจะที่งานแสดงสินค้าหรืองานสัมมนาอื่นๆ “คืนทุน” มาในรูปแบบของคอนเนคชั่นกับผู้ผลิตเสื้อยืดรายหนึ่ง ที่พวกเขาพบในงาน อิมเพรสชั่น ที่ลองบีช 6 เดือนก่อนหน้า ตั้งแต่โควิดเป็นต้นมา บิ๊กปริ้นติ้งได้แต่ซื้อหน้ากากจากผู้ผลิตรายนี้ แต่เจ้าของก็พยายามชักจูงให้เขาเริ่มต้นซื้อเสื้อยืด
เคสนี่และดาวูดพยายามเจรจากับบริษัทในฟอร์จูน 500 ที่ว่า ให้ส่งงานเพียง 100,000 ชิ้น เพราะจำนวนที่ว่าก็ถึงขีดจำกัดของโรงพิมพ์แล้ว เมื่อเคสนี่ โทรเข้าไปหาซัพพลายเออร์เสื้อยืดคนนั้น และบอกว่าเธอต้องการเสื้อยืด 100,000 ตัว คำตอบก็กลับมาว่า “’ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ผมช่วยคุณได้ ที่คุณต้องทำเพียงแค่ส่งรถบรรทุกมารับ’ ดังนั้นเราก็ส่งรถบรรทุกไป เข้าก็ส่งเสื้อยืดมาแล้วเค้าก็ไม่ได้ขอรับสตางค์แม้แต่แดงเดียว” ดาวูดกล่าว

ด้วยมองเห็นว่าเงินทุนจะเข้ามา บิ๊กปริ้นติ้ง โดยสามารถขยายพื้นที่สองเท่าเป็น 1,200 ตารางเมตร, เพิ่มจำนวนพนักงานอีก 25%, ซื้อเครื่องทำป้ายคอใหม่, เครื่องปักบารูดัน 2 ตัว, จ่ายค่าเครื่อง 12 สีหมด, ซื้อเครื่องเลเซอรื และจ่ายเงินค่าเสื้อเต็มจำนวน
“และนั่นก็เป็นที่สถานการณ์ของเราคลี่คลายไป” ดาวูดกล่าว “ผมว่าความสำเร็จมันเป็นแผนของพระเจ้า มันไม่มีรอยต่อให้สะดุดเลยเพราะว่าเราได้เครดิตจากผู้ผลิตเสื้อรายนั้น”
ถ้าให้กล่าวถึงเรื่องการตลาดการโฆษณา ดาวูดพึ่งพาโซเซี่ยลมีเดียซึ่งได้ผลดีกับบิ๊กปริ้นติ้ง “สิ่งที่การตลาดโซเชียลทำคือการทำลายขอบเขตหลายๆอย่างไป” เขากล่าว “เราเพิ่งมีลูกค้าบางคนบินมาจากมิเนโซต้าเพื่อมาสั่งออเดอร์ แล้วสองวันก่อนหน้านั้นเราเพิ่งมีลูกค้าบินมาจากวอชิงตันดีซี และ สองวันก่อนหน้านั้นคนหนึ่งมาจากเดนเวอร์ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีโซเชียลมีเดีย”
สำหรับคนใหม่ๆที่อยากจะเข้ามาในธุรกิจตกแต่งเสื้อผ้า ดาวูดให้คำแนะนำไว้ตามนี้
“ให้มั่นใจว่าคุณเข้ามาในธุรกิจนี้เพราะมีแพชชั่น เพราะว่าธุรกิจนี้จะทดสอบคุณ แล้วถ้าคุณไม่พร้อม ก็หาอย่างอื่นทำเถอะ”
“ผมอยากจะแนะนำเรื่องการใช้พลังของการสร้างเครือข่าย” เขากล่าวต่อ “เข้าไปอยู่ในโซเชียลมีเดียและสร้างตัวตนของคุณก่อนอื่นใด”
“ถ้ามีงานแสดงสินค้าที่ไหนอีกให้ไปเท่าที่คุณจะไปได้และอ่านเอกสาร หรือวารสารต่างๆในอุตสาหกรรม” “มันมีเคล็ดลับและอื่นๆอีกมากที่คุณจำเป็นต้องรู้และคุณไม่สามารถหาได้จากเซิร์ชเอ็นจิ้น” “ที่ดีที่สุดคือการได้คุยกับผู้คนที่เคยทำมาก่อน” เขาสรุป