11 ขั้นตอน ซื้อ GTX มือสอง
ดูยังไงไม่ให้พลาด (ตอน 1/2)
ถึงตอนนี้ก็คงมีหลายท่านที่เป็นเจ้าของเครื่องพิมพ์ DTG แล้วเริ่มจับแนวได้ว่า จะทำธุรกิจยังไง และหลายคนอาจกำลังมองหาเครื่องเพิ่มเติมอีกซักเครื่อง แน่นอนว่าการเพิ่มกำลังการผลิตไม่ใช่แค่การเพิ่มจำนวนเครื่องเพียงอย่างเดียว เพราะจุดแตกต่างระหว่างโรงพิมพ์ DTG ที่กำไร กับ ไม่กำไร นั้นนอกจากความสามารถทางการตลาดแล้ว ยังอยู่กับประสิทธิภาพการจัดการการผลิตด้วย อย่าลืมว่าเราต่างหาหัวพิมพ์ได้ในราคาไม่ต่างกัน ซื้อหมึกพิมพ์ได้ในราคาไม่ต่างกัน (หรือเกิดอยากเลือกหมึกเทียม ก็ต้องเสี่ยงเอาหน่อยกับราคาค่าหัวพิมพ์ที่หนักหน่วง) ก่อนที่จะคุยเรื่องการดูเครื่องมือสอง คงต้องเน้นย้ำอีกทีว่ามันคือประสิทธิภาพของโรงงาน ไม่ใช่เครื่องราคาถูกแค่ไหน
ข้อแนะนำในบทความนี้นำมาจาก ข้อแนะนำเป็นทางการของ Brother ในต่างประเทศแนะนำรุ่น GTX (ไม่ Pro) เราจึงอยากนำเสนอบทความนี้เป็นความรู้ให้กับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อมือสอง หากสนใจรุ่นหรือยี่ห้ออื่นๆ อาจจะต้องลองปรับไปใช้ดู แน่นอน GTX หรือ GTX-422 นั้นจะแตกต่างกว่า Pro อยู่ในบางส่วน เราขออนุญาตจะไม่ลงไปลึกถึงสเปค เพื่อให้เราได้มาดูเนื้อหากันไวๆ
ประเด็นสำคัญเหมือนการซื้อรถมือสองคือการที่เครื่องที่คุณสนใจนั้นต้อง “วิ่งได้” และถูกทดสอบได้ โดยเริ่มต้นจากการให้ผู้ขายเปิดเครื่องและลองพิมพ์งานให้ดู ถ้าหากคุณไม่มีอาร์ตเวิร์คมาตรฐานที่เอาไว้ทดสอบเครื่อง เราขอแนะนำลิงค์นี้เพื่อโหลดไฟล์รูปเพื่อใช้ทดสอบ
(https://brotherdtg.com/colorcharts)
หรือ เซฟ รูปโดยตรงจากที่นี้
เลขตัวถังเครื่อง
เป็นประสบการณ์ของเราโดยตรงที่เคยสอบถามเจ้าของเครื่องหลายๆท่านถึงเลขตัวถังเครื่อง หรือ เลขซีเรียล แล้วส่วนใหญ่ไม่ทราบ แน่นอนมันไม่ได้อยู่ที่สติ๊กเกอร์สีเหลืองภาษาไทยตรงนั้น แต่อยู่ใต้ช่องใส่ตลับหมึก
ตัวเลขบอกอะไร
ตัวอักษรตัวแรกจะบอกถึงเดือนที่เครื่องนั้นถูกผลิตขึ้นมา โดยที่เราไม่นับตัว “I” เพราะมันดูเหมือนกับเลข 1 เกินไปจริงๆ
A = มกราคม
B = กุมภาพันธ์
C = มีนาคม
D = เมษายน
E = พฤษภาคม
F = มิถุนายน
G = กรกฎาคม,
H = สิงหาคม,
J = กันยายน,
K = ตุลาคม,
L = พฤศจิกายน
M = ธันวาคม
ตัวที่สองจะบอกเลขหลักหน่วยของปี เช่น 8 ก็ คือ 2018 เฉพาะฉะนั้นถ้าเราเจอ D0934070 ก็คือเครื่องเลขที่ 934080 ผลิตเดือน เมษายน ปี 2000
เช็ค Print Log
Print Log จะบอกถึงประวัติการใช้งาน ซึ่งไม่ได้บอกแค่จำนวนชิ้นรวมเท่านั้น แต่บอกถึงช่วงเวลาที่ใช้งาน และปริมาณของหมึกที่ใช้ Print Log จะอยู่บนเครื่องตราบเท่าที่ไม่มีการเปลี่ยน เมนบอร์ด และแบตเตอร์แบ็คอัพ ไม่หมดไปซะก่อน (แน่นอนการที่แบตเตอรี่แบคอัพหมดไปเร็ว ก็จะแปลว่าเครื่องไม่ถูกใช้งานนาน ก็ต้องมากังวลกับหัวพิมพ์กันอีกหน่อย)
ลองดูว่าจะดาวน์โหลด Print Log ได้จากวีดีโอนี้ ลิ้งค์นี้ https://vimeo.com/249446315 หรือ คลิกที่วีดีโอ
**แต่ Print Log ที่ได้มาจะเป็นภาษาเครื่องจักรที่จะอ่านไม่ออก (แย่จัง) Brother ในอเมริกามีบริการรับอ่าน Print Log แล้วแปลเป็น pdf ให้ กับที่นี่ อาจจะต้องลองถามกันดูนะ**
ตรวจสอบอายุหมึกพิมพ์
สิ่งทีคนซื้อเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีอิงค์เจ็ตกลัวพอๆกับเครื่องใช้งานหนัก คือเครื่องที่ไม่ได้ใช้งานเลย การตรวจสอบอายุหมึกจะทำให้ทราบว่าหมึกหมดอายุไปนานหรือยัง
และมีแนวโน้มที่จะสร้างปัญหาให้หัวพิมพ์, เข็มแทงตลับหัวพิมพ์, ท่อน้ำหมึก, และช่องเก็บหัวพิมพ์ มากน้อยแค่ไหน ที่ถุงหมึกพิมพ์จะมีสติ๊กเกอร์ที่สามารถลอกออกมาแปะที่หน้าตลับหมึกได้ และจะโชว์ “วันหมดอายุ” ของหมึกพิมพ์
ท่อนำน้ำหมึก
หลังจากตรวจสอบภายนอกแล้ว เราคงต้องมาดูภายในกัน (ก็เงินไม่ใช่น้อยๆนะ) โดยดูท่อทางตั้งแต่เข็มแทงตลับ จนมาถึงหัวพิมพ์ว่ามีฟองอากาศ หรือ รอยแตกหรือไม่ เป็นรู้่กันว่าหมึกพิมพ์อิงค์เจ็ตนั้นไม่ชอบอากาศเป็นอย่างยิ่งเพราะทำให้หมึกแห้ง และเป็นตะกอน ประเมิณได้จะได้รู้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมกันตั้งแต่เนิ่นๆ
หัวพิมพ์
หัวพิมพ์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ราคาสูงที่สุดในเครื่องพิมพ์เครื่องหนึ่ง
ในเครื่องๆหนึ่งจะแยกหัวพิมพ์หมึกขาว และหมึกสีออกจากกัน GTX422 เรานั้นมีหัวพิมพ์ 2 ตัวในเครื่องเดียว
เราสามารถทดสอบหัวพิมพ์โดยการสั่ง Nozzle Check ได้ ลองเช็คข้างใต้หัวพิมพ์ว่ามีคราบหมึกเกาะอยู่มากน้อยแค่ไหน ที่ดีคือไม่มีคราบหมึกเกาะที่ใต้หัวพิมพ์เลย และถ้าอยากรู้ว่าจะทำความสะอาดยังไง ก็ให้ติดตาม LINE Official Account ไว้นะครับ เราจะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป
สำหรับวิธีการดูเครื่องมือสองนั้น ยังมีขั้นตอนที่ 6-11อีก แต่คนแปลต้องกลับไปทำงานต่อแล้ว และคิดว่าคนอ่านอาจจะอยากพักไว้ซักครึ่งนึงเหมือนกัน เจอกันฉบับหน้าแล้วมาต่อกันนะ